วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ไข่เค็มรสต้มยำ
วิธีการมัดหมี่ (ผ้าพื้นบ้านภาค อีสาน)
การมัดหมี่
การมัดหมี่ เป็นการทำลวดลายของผืนผ้า โดยการใช้วัสดุกันน้ำมัดกลุ่มเส้นฝ้ายเป็นลวดลายตามต้องการ ก่อนนำฝ้ายย้อมน้ำสี เมื่อแก้วัสดุกันน้ำออกจึงเกิดสีแตกต่างกัน ถ้าต้องการเพียง 2 สี จะแก้วัสดุมัดฝ้ายเพียงครั้งเดียว หากต้องการหลายสีจะมีการแก้มัดวัสดุหลายครั้ง
ก่อนมัดหมี่ ต้องค้นหมี่ก่อน โดยการนำเส้นฝ้ายพันรอบหลักหมี่ 1 คู่ นับจำนวนเส้นฝ้ายให้สัมพันธ์กับลายหมี่ที่จะมัด จากนั้นจึงทำการมัดหมี่กลุ่มเส้นฝ้ายในหลักหมี่ ตามลวดลายหมี่ที่ต้องการ เมื่อถอดฝ้ายมัดหมี่ออกจากหลักหมี่ นำไปย้อมสี บิดให้หมาดแล้วจึงแก้ปอมัดหมี่ออก ทำให้เกิดลวดลายตรงที่แก้ปอออก นำฝ้ายที่แก้ปอมัดแล้วนี้ไปพันรอบหลอดไม้ไผ่เรียกว่า การปั่นหลอด ร้อยหลอดฝ้ายตามลำดับก่อน-หลัง เก็บไว้อย่างดีระวังไม่ให้ถูกรบกวนจนเชือกร้อยขาด ฝ้ายมัดหมี่ในหลอดฝ้ายใช้เป็นเส้นพุ่งในการทอ
การค้นหมี่
เส้นฝ้ายมีไขฉาบโดยธรรมชาติ ก่อนนำมาใช้ต้องชุบน้ำให้เปียกทั่วอณูของเส้นฝ้าย โดยชุบน้ำแล้วทุบด้วยท่อนไม้ผิวเรียบ เรียกว่า การฆ่าฝ้าย ก่อนจะชุบฝ้ายหมาดน้ำในน้ำแป้งและตากให้แห้ง คล้องฝ้ายใส่กงแล้วถ่ายเส้นฝ้ายไปพันรอบอัก ตั้งอักถ่ายเส้นฝ้ายพันรอบหลักหมี่ ซึ่งมีความกว้างสัมพันธ์กับความกว้างของฟืมที่ใช้ทอผ้า นับจำนวนเส้นฝ้ายให้เป็นหมวดหมู่ แต่ละหมู่มีจำนวนเส้นฝ้ายสัมพันธ์กับลายหมี่ มัดหมวดหมู่ฝ้ายด้วยเชือกฟาง
2. การเริ่มต้นลายมัดหมี่ อาจมัดจากด้านบนไล่เรียงลงข้างล่าง หรือมัดข้างล่างก่อนจึงไล่เรียงขึ้นข้างบน บางคนอาจเริ่มมัดจากตรงกลางก่อน จึงขยายออกไปเต็มหลักหมี่
3. เริ่มมัดปลายเชือกด้านหนึ่งกับลูกหมี่ก่อน จึงพันอีกปลายหนึ่งซ้อนทับกันให้แน่นเพื่อไม่ให้สีย้อมซึมเข้าข้อหมี่ เมื่อพันทับกันไปจนได้ความยาวตามลายหมี่แล้ว มัดปลายเชือกกับลูกหมี่ให้แน่นเช่นกัน โดยเหลือปลายเชือกไว้ เมื่อเวลาแก้ปอมัดจะทำได้ง่าย
การมัดหมี่ เป็นการทำลวดลายของผืนผ้า โดยการใช้วัสดุกันน้ำมัดกลุ่มเส้นฝ้ายเป็นลวดลายตามต้องการ ก่อนนำฝ้ายย้อมน้ำสี เมื่อแก้วัสดุกันน้ำออกจึงเกิดสีแตกต่างกัน ถ้าต้องการเพียง 2 สี จะแก้วัสดุมัดฝ้ายเพียงครั้งเดียว หากต้องการหลายสีจะมีการแก้มัดวัสดุหลายครั้ง
ก่อนมัดหมี่ ต้องค้นหมี่ก่อน โดยการนำเส้นฝ้ายพันรอบหลักหมี่ 1 คู่ นับจำนวนเส้นฝ้ายให้สัมพันธ์กับลายหมี่ที่จะมัด จากนั้นจึงทำการมัดหมี่กลุ่มเส้นฝ้ายในหลักหมี่ ตามลวดลายหมี่ที่ต้องการ เมื่อถอดฝ้ายมัดหมี่ออกจากหลักหมี่ นำไปย้อมสี บิดให้หมาดแล้วจึงแก้ปอมัดหมี่ออก ทำให้เกิดลวดลายตรงที่แก้ปอออก นำฝ้ายที่แก้ปอมัดแล้วนี้ไปพันรอบหลอดไม้ไผ่เรียกว่า การปั่นหลอด ร้อยหลอดฝ้ายตามลำดับก่อน-หลัง เก็บไว้อย่างดีระวังไม่ให้ถูกรบกวนจนเชือกร้อยขาด ฝ้ายมัดหมี่ในหลอดฝ้ายใช้เป็นเส้นพุ่งในการทอ
การค้นหมี่
เส้นฝ้ายมีไขฉาบโดยธรรมชาติ ก่อนนำมาใช้ต้องชุบน้ำให้เปียกทั่วอณูของเส้นฝ้าย โดยชุบน้ำแล้วทุบด้วยท่อนไม้ผิวเรียบ เรียกว่า การฆ่าฝ้าย ก่อนจะชุบฝ้ายหมาดน้ำในน้ำแป้งและตากให้แห้ง คล้องฝ้ายใส่กงแล้วถ่ายเส้นฝ้ายไปพันรอบอัก ตั้งอักถ่ายเส้นฝ้ายพันรอบหลักหมี่ ซึ่งมีความกว้างสัมพันธ์กับความกว้างของฟืมที่ใช้ทอผ้า นับจำนวนเส้นฝ้ายให้เป็นหมวดหมู่ แต่ละหมู่มีจำนวนเส้นฝ้ายสัมพันธ์กับลายหมี่ มัดหมวดหมู่ฝ้ายด้วยเชือกฟาง
รูปการค้นหมี่
วิธีการค้นหมี่
1. เอาฝ้ายที่เตรียมมาแล้วมัดหลักหมี่ด้านล่างก่อน แล้วพันรอบหลักหมี่ไปเรื่อยๆ เรียกว่า การก่อหมี่
2. การค้นหมี่จะต้องค้นจากล่างขึ้นบน หรือบนลงล่างจนกว่าจะครบจำนวนรอบที่ต้องการ ภาษาท้องถิ่นเรียกแต่ละจำนวนว่าลูกหรือลำ ถ้าก่อหมี่ผูก ฝ้ายด้านขวา ก็ต้องวนซ้ายมาขวาทุกครั้ง
3. ควรผูกฝ้ายไว้ทุกลูกด้วยสายแนม เพื่อไม่ให้หมี่พันกัน หรือหลุดออก
จากกัน
1. เอาฝ้ายที่เตรียมมาแล้วมัดหลักหมี่ด้านล่างก่อน แล้วพันรอบหลักหมี่ไปเรื่อยๆ เรียกว่า การก่อหมี่
2. การค้นหมี่จะต้องค้นจากล่างขึ้นบน หรือบนลงล่างจนกว่าจะครบจำนวนรอบที่ต้องการ ภาษาท้องถิ่นเรียกแต่ละจำนวนว่าลูกหรือลำ ถ้าก่อหมี่ผูก ฝ้ายด้านขวา ก็ต้องวนซ้ายมาขวาทุกครั้ง
3. ควรผูกฝ้ายไว้ทุกลูกด้วยสายแนม เพื่อไม่ให้หมี่พันกัน หรือหลุดออก
จากกัน
รูปการมัดหมี่
วิธีการมัดหมี่
1. มัดกลุ่มฝ้ายแต่ละลูกหมี่ด้วยเชือกฟาง จนครบหลักหมี่ ทำเป็นเชิงผ้า2. การเริ่มต้นลายมัดหมี่ อาจมัดจากด้านบนไล่เรียงลงข้างล่าง หรือมัดข้างล่างก่อนจึงไล่เรียงขึ้นข้างบน บางคนอาจเริ่มมัดจากตรงกลางก่อน จึงขยายออกไปเต็มหลักหมี่
3. เริ่มมัดปลายเชือกด้านหนึ่งกับลูกหมี่ก่อน จึงพันอีกปลายหนึ่งซ้อนทับกันให้แน่นเพื่อไม่ให้สีย้อมซึมเข้าข้อหมี่ เมื่อพันทับกันไปจนได้ความยาวตามลายหมี่แล้ว มัดปลายเชือกกับลูกหมี่ให้แน่นเช่นกัน โดยเหลือปลายเชือกไว้ เมื่อเวลาแก้ปอมัดจะทำได้ง่าย
4. เอาเชือกเส้นหนึ่งสอดเข้าไปในช่องหลักหมี่ข้างใดข้างหนึ่ง ผูกกลุ่มฝ้ายไว้เป็นวงไม่ให้หมี่ที่มัดลวดลายแล้วหลุดออกจากกัน และใช้เป็นหูหิ้วสำหรับจับเวลาย้อม ถอดฝ้ายมัดหมี่ออกจากหลักหมี่
หลังจากนั้น เราก็จะนำไป ย้อมคราม เมื่อย้อมครามเสร็จก็จะนำมาแก้ปอมัดหมี่
การแก้ปอมัดหมี่
หมี่ที่มัดเสร็จเรียบร้อยและถอดออกจากหลักหมี่แล้วนำไปแช่น้ำให้เปียก บิดให้หมาด นำไปย้อมสีคราม ล้างสีให้สะอาด จึงนำมาแก้ปอมัดหมี่ พาดราวกระตุกให้เรียงเส้น ผึ่งให้แห้งได้ฝ้ายมัดหมี่
การปั่นหลอด
นำฝ้ายมัดหมี่คล้องใส่กงซึ่งวางอยู่ระหว่างตีนกง 1 คู่ หมุนกงคลายฝ้ายออกจากกงพันเข้าหลอดไม้ไผ่เล็กๆ ที่เสียบแน่นอยู่กับเหล็กไนของหลา ความยาวของหลอดไผ่สัมพันธ์กันกับกระสวยทอผ้า เมื่อหมุนกงล้อไม้ไผ่ของหลา เหล็กไนและหลอดจะหมุนเอาเส้นฝ้ายจากกงพันรอบแกนหลอดไม้ไผ่ ให้ได้จำนวนเส้นฝ้ายพอเหมาะกับขนาดองร่องกระสวยทอผ้า
การร้อยฝ้าย
ร้อยหลอกฝ้ายที่ปั่นแล้วตามลำดับก่อนหลังหากร้อยหลอดผิดลำดับหรือเชือกร้อยหลอดขาดทำให้ลำดับฝ้ายผิดไปจะไม่สามารถทอเป็นลวดลายตามความต้องการได้
การร้อยฝ้าย
ร้อยหลอกฝ้ายที่ปั่นแล้วตามลำดับก่อนหลังหากร้อยหลอดผิดลำดับหรือเชือกร้อยหลอดขาดทำให้ลำดับฝ้ายผิดไปจะไม่สามารถทอเป็นลวดลายตามความต้องการได้
วิธีทำวุ้นมะตูม
วิธีทำวุ้นมะตูม
มะตูมนั้นเป็นพืชสมุนไพร มีสรรพคุณแก้คลื่นไส้อาเจียน อันเกิดจากธาตุไม่ปกติ แก้อาการท้องเสีย แก้บิด ช่วยให้ชุ่มชื่นใจ และเมื่อนำมาเป็นส่วนผสมในวุ้น ก็จะทำให้วุ้นที่ได้มีทั้งประโยชน์ทางสมุนไพร และความอร่อยอีกด้วย
ส่วนผสมตัววุ้น
1.วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วยตวง
4.มะตูมแห้ง 10 แว่น
5. พิมพ์รูปมะตูม
1.วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วยตวง
4.มะตูมแห้ง 10 แว่น
5. พิมพ์รูปมะตูม
วิธีทำ
-ต้มมะตูมกับน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง เคี่ยวจนเหลือน้ำ 1/2 ถ้วยตวง กรองด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด
-เคี่ยววุ้นกับน้ำเปล่า น้ำมะตูม จนวุ้นละลายประมาณ 5 นาที จึงเติมน้ำตาลทรายเคี่ยวต่อจนน้ำตาลละลายหมด กรองด้วยผ้าสะอาด เทใส่ภาชนะให้หนาประมาณ 1 นิ้ว
-ต้มมะตูมกับน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง เคี่ยวจนเหลือน้ำ 1/2 ถ้วยตวง กรองด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด
-เคี่ยววุ้นกับน้ำเปล่า น้ำมะตูม จนวุ้นละลายประมาณ 5 นาที จึงเติมน้ำตาลทรายเคี่ยวต่อจนน้ำตาลละลายหมด กรองด้วยผ้าสะอาด เทใส่ภาชนะให้หนาประมาณ 1 นิ้ว
ส่วนผสมหน้ากะทิ
วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
เกลือ 1 ช้อนชา
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
เกลือ 1 ช้อนชา
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
-เคี่ยววุ้นกับน้ำเปล่าจนวุ้นละลาย เติมน้ำตาล เคี่ยวต่อจนน้ำตาลทรายละลาย
-ละลายเกลือกับหัวกะทิจนเข้ากัน นำกะทิไปใส่ในวุ้น เคี่ยวพอวุ้นเดือด นำไปเทบนวุ้นมะตูมที่เริ่มตึงตัวแล้ว พักไว้จนวุ้นเย็นและอยู่ตัว ตัดเป็นชิ้นๆ หรือใช้หรือใช้พิมพ์วุ้นมะตูมตัดให้สวยงาม
-เคี่ยววุ้นกับน้ำเปล่าจนวุ้นละลาย เติมน้ำตาล เคี่ยวต่อจนน้ำตาลทรายละลาย
-ละลายเกลือกับหัวกะทิจนเข้ากัน นำกะทิไปใส่ในวุ้น เคี่ยวพอวุ้นเดือด นำไปเทบนวุ้นมะตูมที่เริ่มตึงตัวแล้ว พักไว้จนวุ้นเย็นและอยู่ตัว ตัดเป็นชิ้นๆ หรือใช้หรือใช้พิมพ์วุ้นมะตูมตัดให้สวยงาม
แชมพูมะกรูดสูตรไร้สาร
แชมพูมะกรูดสูตรไร้สาร
วันนี้มาแนะนำทำแชมพูมะกรูดแบบไร้สารเคมี คือ ไม่ใช้หัวแชมพูหรือผงฟอง ส่วนผสมหาง่ายๆ ใช้เพียงมะกรูด 1 กิโลกรัม กับน้ำสะอาด 1 ลิตร
วิธีการทำ
1. นำผลมะกรูููดมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วผ่าซีีีก เอาเมล็็็ดออก หั่ั่ั่นทั้งเปลืืือกให้ เป็นชิ้น
2. นำไปต้มกับน้ำในหม้อ ปิดฝา ต้มนาน 15 นาที
3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำทั้งน้ำและเนื้อ มะกรูดไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียด
4. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะกรูดที่ข้นเหนียวเป็นครีม
5. นำน้ำมะกรูดที่ได้ไปนึ่ง หรือ ตมไฟอ่อน พอเดือดปุดๆ ยกลงทิ้งไว้ ให้เย็น นำไปบรรจุขวดที่มีฝาปิด เก็บได้นาน 3-6 เดือน
1. นำผลมะกรูููดมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วผ่าซีีีก เอาเมล็็็ดออก หั่ั่ั่นทั้งเปลืืือกให้ เป็นชิ้น
2. นำไปต้มกับน้ำในหม้อ ปิดฝา ต้มนาน 15 นาที
3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำทั้งน้ำและเนื้อ มะกรูดไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียด
4. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะกรูดที่ข้นเหนียวเป็นครีม
5. นำน้ำมะกรูดที่ได้ไปนึ่ง หรือ ตมไฟอ่อน พอเดือดปุดๆ ยกลงทิ้งไว้ ให้เย็น นำไปบรรจุขวดที่มีฝาปิด เก็บได้นาน 3-6 เดือน
วิธีใช้
ใช้สระผมแทนแชมพูทั่วไป เวลาสระผมจะไม่มีฟอง แต่จะทำให้ผมสะอาด นุ่มสลวย ผมลื่นหวีง่าย ผมจะดกดำ เงางาม
ใช้สระผมแทนแชมพูทั่วไป เวลาสระผมจะไม่มีฟอง แต่จะทำให้ผมสะอาด นุ่มสลวย ผมลื่นหวีง่าย ผมจะดกดำ เงางาม
เมื่อนำไปลองใช้ดูแล้วเห็นผลเป็นอย่างไร ถ้าจะกรุณาเขียนมาเล่าสู่กันฟังก็จะเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นๆต่อไปครับ
ที่มา : คู่มือพึ่งตนเอง 37 หลักสูตรเพื่อสุขภาพและความงาม
และวารสารเกษตรกรรมธรรมชาติ ศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนา
และวารสารเกษตรกรรมธรรมชาติ ศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนา
แหนมเห็ดนางฟ้า
แหนมเห็ดนางฟ้า
วิธีทำแหนมเห็ดนางฟ้า
- ตัดตีนเห็ดส่วนที่แข็งออกเห็ดอย่าพึ่งล้างน้ำน่ะค่ะ ให้นำมาฉีกเป็นเส้นตามลายยาวของดอกเห็ดฉีกเป็นฝอยๆค่ะ เมื่อฉีกเสร็จแล้วค่อยนำไปล้างน้ำสะอาดประมาณ2-3น้ำ แล้วนำเห็ดไปนึ่งให้สุกประมาณ 15 นาที
- เมื่อเห็ดสุกแล้วนำมาพักไว้ให้เห็ดเย็นและบีบเอาน้ำออกจากเห็ด บีบให้หมาดๆเลยน่ะค่ะใช้ผ้าขาวบางห่อแล้วบิดก็ได้ค่ะจะได้บิดง่ายๆ บิดให้เห็ดแห้ง
- โคลกกระเทียมให้ละเอียดแบบหยาบๆ ส่วนข้าวเหนียวให้แช่น้ำพอให้ข้าวแตกออกเป็นเม็ดๆ แล้วเอาเฉพาะข้าวไม่เอาน้ำน่ะค่ะใส่ในกะละมังที่เตรียมคั้นแหนมเห็ด
- ใส่เห็ด,เกลือและน้ำตาลปิ๊บครึ่งช้อนชาไม่ต้องใส่เยอะน่ะค่ะเพราะว่าเห็ดมีความหวานในตัวอยู่แล้วและใส่กระเทียมลงไปพร้อมกันเลยค่ะ
- ใส่ถุงมือขยำให้ส่วนผสมเข้ากัน คั้นไปเรื่อยๆแล้วลองชิมดูว่าเค็มพอหรือยังแต่อย่าให้เค็มมากน่ะค่ะเอาพอเค็มหน่อยๆเมื่อแหนมเห็ดเป็นแล้วจะได้อร่อย ถ้ายังไม่เค็มก็ให้เติมเกลือนิดหน่อยก็ได้ค่ะ
- เพื่อตอนที่เราคั้นแหนมเห็ดจะ
วัสดุอุปกรณ์ทำแหนมเห็ด
- เห็ดนางฟ้าฮังการี 1 กก. (ดอกเห็ดไม่ค่อยสวยเพราะคัดดอกที่สวยๆไปขายส่วนดอก
- เกลือ 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1 ครึ่งถ้วย
- กระเทียม 1 ถ้วย
- น้ำตาลปิ๊ป ครึ่งช้อนชา
- พริกขี้หนู ไว้ใส่ตอนห่อแหนมเห็ด
- เห็ดไม่สวยก็คัดมาทำแหนมเห็ด)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)