วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ไข่เค็มรสต้มยำ

วัสดุอุปกรณ์ ก็เหมือนกับเราเตรียมเครื่องต้มยำนั่นแหละครับ

  • พริกชี้ฟ้าแดง 10 เม็ด ไม่ต้องทุบหรือบุบหรือว่าโคลกน่ะครับ
  • หอมแดง 5 หัว ผ่าครึ่ง
  • ข่าแก่หั่น 10 แว่น
  • กระเทียมเม็ดใหญ่ 5 กลีบ
  • ตะไคร้หั่นฝอย 3-4 ต้น
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • มะนาวฝานเป็นแว่นๆ 2 ลูก
  • ไข่เปฺ็ด 12 ฟอง ล้างด้วยน้ำสะอาดใช้สก๊อตไบร์ทถูเบาๆครับไม่งั้นเดี๋ยวไข่จะแตกน่ะครับ
  • เกลือเม็ด 1 ถ้วย ( ใช้ถ้วยใบเล็กขนาดน้ำซุป หรือถ้วยอะไรก็ได้ แต่สำคัญต้องใช้ถ้วยใบเดียวกันในการตวงน้ำน่ะครับ)
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย 
 ไข่เค็มรสต้มยำ,ไข่เค็มสมุนไพร
เครื่องปรุงตามสูตรนี้จะได้ 1 จานพอดีครับ
 ไข่เค็มรสต้มยำ,ไข่เค็มสมุนไพร
สำหรับสูตรนี้ใช้ไข่เป็ด 12 ฟอง
 ไข่เค็มรสต้มยำ,ไข่เค็มสมุนไพร
เห็นเครื่องต้มยำแล้ว ถ้าไม่ติดว่าจะทำไข่เค็มสูตรต้มยำแล้วละก็ผู้เขียนก็อยากหากุ้งมาใส่จังเลยครับ

 วิธีและเคล็ดลับในการทำไข่เค็มรสต้มยำ

  • ใส่เกลือ 1 ถ้วยลงในหม้อที่จะใช้ต้ม แล้วตามด้วยน้ำสะอาด 4 ถ้วย 
  • ใส่เครื่องต้มยำลงไปในหม้อ แล้วนำไปต้ม
ไข่เค็มรสต้มยำ,ไข่เค็มสมุนไพร
  • ระหว่างต้มให้เฝ้าด้วยน่ะครับ สาเหตุที่ต้องเฝ้าก็คือ เมื่อน้ำเดือดแล้วให้จับเวลาไปอีก 5 นาที แล้วให้ปิดแก๊สเพราะว่าเครื่องของสมุนไพรจะยังออกไม่ครบ แต่เราจะให้เครื่องไปซึมเข้าในไข่ได้ง่ายครับ นี่เป็นสูตรครับ
ไข่เค็มรสต้มยำ,ไข่เค็มสมุนไพร
  • เมื่อปิดแก๊สแล้วก็พักไว้ให้น้ำต้มยำ หรือน้ำสมุนไพรนั้นเย็นหรืออุ่น แล้วก็หาภาชนะเป็นโหล หรือเป็นโถพลาสติก ใส่ไข่เป้ด แล้วใส่น้ำลงไปตักเครื่องสมุนทับไว้บนไข่เป็ด ดองไว้ประมาณ 12 วัน ก็สามารถนำไข่เค็มรสต้มยำ หรือไข่เค็มสมุนไพร มาประกอบอาหารได้แล้วครับ จะต้มหรือทอด ก็ได้ถ้าจะยำก็นำไปต้มแล้วก็นำมายำ เป็นไข่เค็มรสต้มยำแบบครบเครื่องสมุนไพรเลยทีเดียวครับ ใส่ภาชนะเป็นโถพลาสติกหรือหม้อก็ได้ครับ ปิดฝาไว้ 12 วันนำมาต้มหรือทอด รับรองความอร่อยและมีประโยชน์ครับ
ไข่เค็มรสต้มยำ หรือ ไข่เค็มสมุนไพรนี้ เราสามารถทำไว้รับประทานง่ายๆที่บ้านหรือว่า จะทำขายสร้างรายได้ก็ยิ่งดีน่ะครับ เพิ่มมูลค่าของสินค้าด้วยการแปรรูปของไข่ จากเดิมขายฟองล่ะ 4 บาทแต่ถ้านำมาแปรรูปเป็น ไข่เค็มรสต้มยำ หรือ ไข่เค็มสมุนไพร สามารถขายได้เป็นราคา 8 บาท เพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัวเลยทีเดียว ลองทำตัวน่ะครับ เมื่อครบ 12 วันแล้วเปลือกไข่จะเป็นสีเหลืองเพราะสมุนไพรจะไปเกาะบนเปลือกไข่ เนื้อไข่ข้างในก็จะไม่เค็มมาก เมื่อรับประทานก็จะเหมือนกับรับประทานสมุนไพรไปในตัว ผู้เขียนหวังว่า บทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านเว็บบ้านน้อย ไม่มากก็น้อยน่ะครับ ติดตาม เมนูอาหาร สูตรและเคล็ดลับ วิธีทำอาหารทุกภาค ทุกเมนูได้ที่นี่ Baannoi.com
เคล็ดลับ : ถ้วยที่ใช้ตวงเกลือ และ น้ำเปล่า ต้องใช้ถ้วยขนาดเดียวกัน 

วิธีการมัดหมี่ (ผ้าพื้นบ้านภาค อีสาน)

การมัดหมี่ 
        การมัดหมี่ เป็นการทำลวดลายของผืนผ้า โดยการใช้วัสดุกันน้ำมัดกลุ่มเส้นฝ้ายเป็นลวดลายตามต้องการ ก่อนนำฝ้ายย้อมน้ำสี เมื่อแก้วัสดุกันน้ำออกจึงเกิดสีแตกต่างกัน ถ้าต้องการเพียง สี จะแก้วัสดุมัดฝ้ายเพียงครั้งเดียว หากต้องการหลายสีจะมีการแก้มัดวัสดุหลายครั้ง
         ก่อนมัดหมี่ ต้องค้นหมี่ก่อน โดยการนำเส้นฝ้ายพันรอบหลักหมี่ คู่ นับจำนวนเส้นฝ้ายให้สัมพันธ์กับลายหมี่ที่จะมัด จากนั้นจึงทำการมัดหมี่กลุ่มเส้นฝ้ายในหลักหมี่ ตามลวดลายหมี่ที่ต้องการ เมื่อถอดฝ้ายมัดหมี่ออกจากหลักหมี่ นำไปย้อมสี บิดให้หมาดแล้วจึงแก้ปอมัดหมี่ออก ทำให้เกิดลวดลายตรงที่แก้ปอออก นำฝ้ายที่แก้ปอมัดแล้วนี้ไปพันรอบหลอดไม้ไผ่เรียกว่า การปั่นหลอด ร้อยหลอดฝ้ายตามลำดับก่อน-หลัง เก็บไว้อย่างดีระวังไม่ให้ถูกรบกวนจนเชือกร้อยขาด ฝ้ายมัดหมี่ในหลอดฝ้ายใช้เป็นเส้นพุ่งในการทอ

การค้นหมี่ 
         เส้นฝ้ายมีไขฉาบโดยธรรมชาติ ก่อนนำมาใช้ต้องชุบน้ำให้เปียกทั่วอณูของเส้นฝ้าย โดยชุบน้ำแล้วทุบด้วยท่อนไม้ผิวเรียบ เรียกว่า การฆ่าฝ้าย ก่อนจะชุบฝ้ายหมาดน้ำในน้ำแป้งและตากให้แห้ง คล้องฝ้ายใส่กงแล้วถ่ายเส้นฝ้ายไปพันรอบอัก ตั้งอักถ่ายเส้นฝ้ายพันรอบหลักหมี่ ซึ่งมีความกว้างสัมพันธ์กับความกว้างของฟืมที่ใช้ทอผ้า นับจำนวนเส้นฝ้ายให้เป็นหมวดหมู่ แต่ละหมู่มีจำนวนเส้นฝ้ายสัมพันธ์กับลายหมี่ มัดหมวดหมู่ฝ้ายด้วยเชือกฟาง





รูปการค้นหมี่



วิธีการค้นหมี่
      1. เอาฝ้ายที่เตรียมมาแล้วมัดหลักหมี่ด้านล่างก่อน แล้วพันรอบหลักหมี่ไปเรื่อยๆ เรียกว่า การก่อหมี่
      2. การค้นหมี่จะต้องค้นจากล่างขึ้นบน หรือบนลงล่างจนกว่าจะครบจำนวนรอบที่ต้องการ ภาษาท้องถิ่นเรียกแต่ละจำนวนว่าลูกหรือลำ ถ้าก่อหมี่ผูก ฝ้ายด้านขวา ก็ต้องวนซ้ายมาขวาทุกครั้ง
      3. ควรผูกฝ้ายไว้ทุกลูกด้วยสายแนม เพื่อไม่ให้หมี่พันกัน หรือหลุดออก
จากกัน

รูปการมัดหมี่

วิธีการมัดหมี่
1. มัดกลุ่มฝ้ายแต่ละลูกหมี่ด้วยเชือกฟาง จนครบหลักหมี่ ทำเป็นเชิงผ้า
2. การเริ่มต้นลายมัดหมี่ อาจมัดจากด้านบนไล่เรียงลงข้างล่าง หรือมัดข้างล่างก่อนจึงไล่เรียงขึ้นข้างบน บางคนอาจเริ่มมัดจากตรงกลางก่อน จึงขยายออกไปเต็มหลักหมี่
3. เริ่มมัดปลายเชือกด้านหนึ่งกับลูกหมี่ก่อน จึงพันอีกปลายหนึ่งซ้อนทับกันให้แน่นเพื่อไม่ให้สีย้อมซึมเข้าข้อหมี่ เมื่อพันทับกันไปจนได้ความยาวตามลายหมี่แล้ว มัดปลายเชือกกับลูกหมี่ให้แน่นเช่นกัน โดยเหลือปลายเชือกไว้ เมื่อเวลาแก้ปอมัดจะทำได้ง่าย


4. เอาเชือกเส้นหนึ่งสอดเข้าไปในช่องหลักหมี่ข้างใดข้างหนึ่ง ผูกกลุ่มฝ้ายไว้เป็นวงไม่ให้หมี่ที่มัดลวดลายแล้วหลุดออกจากกัน และใช้เป็นหูหิ้วสำหรับจับเวลาย้อม ถอดฝ้ายมัดหมี่ออกจากหลักหมี่

หลังจากนั้น เราก็จะนำไป ย้อมคราม เมื่อย้อมครามเสร็จก็จะนำมาแก้ปอมัดหมี่



การแก้ปอมัดหมี่
หมี่ที่มัดเสร็จเรียบร้อยและถอดออกจากหลักหมี่แล้วนำไปแช่น้ำให้เปียก บิดให้หมาด นำไปย้อมสีคราม ล้างสีให้สะอาด จึงนำมาแก้ปอมัดหมี่ พาดราวกระตุกให้เรียงเส้น ผึ่งให้แห้งได้ฝ้ายมัดหมี่


การปั่นหลอด
นำฝ้ายมัดหมี่คล้องใส่กงซึ่งวางอยู่ระหว่างตีนกง คู่ หมุนกงคลายฝ้ายออกจากกงพันเข้าหลอดไม้ไผ่เล็กๆ ที่เสียบแน่นอยู่กับเหล็กไนของหลา ความยาวของหลอดไผ่สัมพันธ์กันกับกระสวยทอผ้า เมื่อหมุนกงล้อไม้ไผ่ของหลา เหล็กไนและหลอดจะหมุนเอาเส้นฝ้ายจากกงพันรอบแกนหลอดไม้ไผ่ ให้ได้จำนวนเส้นฝ้ายพอเหมาะกับขนาดองร่องกระสวยทอผ้า
การร้อยฝ้าย
ร้อยหลอกฝ้ายที่ปั่นแล้วตามลำดับก่อนหลังหากร้อยหลอดผิดลำดับหรือเชือกร้อยหลอดขาดทำให้ลำดับฝ้ายผิดไปจะไม่สามารถทอเป็นลวดลายตามความต้องการได้

วิธีทำวุ้นมะตูม

วิธีทำวุ้นมะตูม





มะตูมนั้นเป็นพืชสมุนไพร มีสรรพคุณแก้คลื่นไส้อาเจียน อันเกิดจากธาตุไม่ปกติ แก้อาการท้องเสีย แก้บิด ช่วยให้ชุ่มชื่นใจ และเมื่อนำมาเป็นส่วนผสมในวุ้น ก็จะทำให้วุ้นที่ได้มีทั้งประโยชน์ทางสมุนไพร และความอร่อยอีกด้วย
ส่วนผสมตัววุ้น
1.วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วยตวง
4.มะตูมแห้ง 10 แว่น
5. พิมพ์รูปมะตูม
วิธีทำ
-ต้มมะตูมกับน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง เคี่ยวจนเหลือน้ำ 1/2 ถ้วยตวง กรองด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด
-เคี่ยววุ้นกับน้ำเปล่า น้ำมะตูม จนวุ้นละลายประมาณ 5 นาที จึงเติมน้ำตาลทรายเคี่ยวต่อจนน้ำตาลละลายหมด กรองด้วยผ้าสะอาด เทใส่ภาชนะให้หนาประมาณ 1 นิ้ว
ส่วนผสมหน้ากะทิ
วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
เกลือ 1 ช้อนชา
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
-เคี่ยววุ้นกับน้ำเปล่าจนวุ้นละลาย เติมน้ำตาล เคี่ยวต่อจนน้ำตาลทรายละลาย
-ละลายเกลือกับหัวกะทิจนเข้ากัน นำกะทิไปใส่ในวุ้น เคี่ยวพอวุ้นเดือด นำไปเทบนวุ้นมะตูมที่เริ่มตึงตัวแล้ว พักไว้จนวุ้นเย็นและอยู่ตัว ตัดเป็นชิ้นๆ หรือใช้หรือใช้พิมพ์วุ้นมะตูมตัดให้สวยงาม

แชมพูมะกรูดสูตรไร้สาร

แชมพูมะกรูดสูตรไร้สาร







           วันนี้มาแนะนำทำแชมพูมะกรูดแบบไร้สารเคมี คือ ไม่ใช้หัวแชมพูหรือผงฟอง ส่วนผสมหาง่ายๆ ใช้เพียงมะกรูด 1 กิโลกรัม กับน้ำสะอาด 1 ลิตร
     วิธีการทำ
     1. นำผลมะกรูููดมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วผ่าซีีีก เอาเมล็็็ดออก หั่ั่ั่นทั้งเปลืืือกให้ เป็นชิ้น
     2. นำไปต้มกับน้ำในหม้อ ปิดฝา ต้มนาน 15 นาที
     3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำทั้งน้ำและเนื้อ มะกรูดไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียด
     4. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะกรูดที่ข้นเหนียวเป็นครีม
     5. นำน้ำมะกรูดที่ได้ไปนึ่ง หรือ ตมไฟอ่อน พอเดือดปุดๆ ยกลงทิ้งไว้ ให้เย็น นำไปบรรจุขวดที่มีฝาปิด เก็บได้นาน 3-6 เดือน
     วิธีใช้
     ใช้สระผมแทนแชมพูทั่วไป เวลาสระผมจะไม่มีฟอง แต่จะทำให้ผมสะอาด นุ่มสลวย ผมลื่นหวีง่าย ผมจะดกดำ เงางาม
      เมื่อนำไปลองใช้ดูแล้วเห็นผลเป็นอย่างไร ถ้าจะกรุณาเขียนมาเล่าสู่กันฟังก็จะเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นๆต่อไปครับ

  ที่มา : คู่มือพึ่งตนเอง 37 หลักสูตรเพื่อสุขภาพและความงาม
           และวารสารเกษตรกรรมธรรมชาติ ศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนา

แหนมเห็ดนางฟ้า

แหนมเห็ดนางฟ้า

     


วิธีทำแหนมเห็ดนางฟ้า

  • ตัดตีนเห็ดส่วนที่แข็งออกเห็ดอย่าพึ่งล้างน้ำน่ะค่ะ ให้นำมาฉีกเป็นเส้นตามลายยาวของดอกเห็ดฉีกเป็นฝอยๆค่ะ เมื่อฉีกเสร็จแล้วค่อยนำไปล้างน้ำสะอาดประมาณ2-3น้ำ แล้วนำเห็ดไปนึ่งให้สุกประมาณ 15 นาที

  • เมื่อเห็ดสุกแล้วนำมาพักไว้ให้เห็ดเย็นและบีบเอาน้ำออกจากเห็ด บีบให้หมาดๆเลยน่ะค่ะใช้ผ้าขาวบางห่อแล้วบิดก็ได้ค่ะจะได้บิดง่ายๆ บิดให้เห็ดแห้ง
  • โคลกกระเทียมให้ละเอียดแบบหยาบๆ ส่วนข้าวเหนียวให้แช่น้ำพอให้ข้าวแตกออกเป็นเม็ดๆ แล้วเอาเฉพาะข้าวไม่เอาน้ำน่ะค่ะใส่ในกะละมังที่เตรียมคั้นแหนมเห็ด
  • ใส่เห็ด,เกลือและน้ำตาลปิ๊บครึ่งช้อนชาไม่ต้องใส่เยอะน่ะค่ะเพราะว่าเห็ดมีความหวานในตัวอยู่แล้วและใส่กระเทียมลงไปพร้อมกันเลยค่ะ
  • ใส่ถุงมือขยำให้ส่วนผสมเข้ากัน คั้นไปเรื่อยๆแล้วลองชิมดูว่าเค็มพอหรือยังแต่อย่าให้เค็มมากน่ะค่ะเอาพอเค็มหน่อยๆเมื่อแหนมเห็ดเป็นแล้วจะได้อร่อย ถ้ายังไม่เค็มก็ให้เติมเกลือนิดหน่อยก็ได้ค่ะ
  • เพื่อตอนที่เราคั้นแหนมเห็ดจะ

     วัสดุอุปกรณ์ทำแหนมเห็ด

  •  เห็ดนางฟ้าฮังการี 1 กก. (ดอกเห็ดไม่ค่อยสวยเพราะคัดดอกที่สวยๆไปขายส่วนดอก
  • เกลือ 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1 ครึ่งถ้วย
  • กระเทียม 1 ถ้วย
  • น้ำตาลปิ๊ป ครึ่งช้อนชา
  • พริกขี้หนู ไว้ใส่ตอนห่อแหนมเห็ด
  • เห็ดไม่สวยก็คัดมาทำแหนมเห็ด)









วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560

10 อันดับ อาชีพของเด็กสายศิลป์ ที่ทำรายได้สูง และนายจ้างต้องการมากที่สุด

10 อันดับ อาชีพของเด็กสายศิลป์ 

อันดับ 1 นักเศรษฐศาสตร์ (Economist)

เศรษฐศาสตร์ เป็นสาขาวิชาในสายศิลปศาสตร์ ที่มีศักยภาพในด้านค่าตอบแทนที่ใกล้เคียงกับสายวิชาชีพประเภท การเงิน การแพทย์ กฎหมาย และเทคโนโลยี โดยอัตราเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $40,000 – $200,000 ต่อปี
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นักโบราณคดี

อันดับ 2 นักโบราณคดี (Archaeologist)

นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี ถือเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับความนิยมนักในบ้านเราสักเท่าไหร่ แต่ในต่างประเทศถือเป็นอาชีพที่สำคัญและได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก โดยมีอัตราเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ $40,000 – $171,000 ต่อปี แถมยังถูกจัดว่าเป็นหลักสูตรขั้นสูงอีกด้วย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อาชีพนักสังคมวิทยา

อันดับ 3 นักสังคมวิทยา (Sociologist)

จัดเป็นสาขาวิชาที่ค่อนข้างใหม่ เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาสาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพได้อย่างกว้างขวาง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ เช่น งานด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ งานพัฒนาชุมชน งานด้านฝึกอบรมและพัฒนา งานนโยบายและแผน งานวิจัยทางสังคมศาสตร์ และงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม
เงินเดือนเฉลี่ยต่อปี : $55,000 – $97,000 คิดเป็นเงินไทยโดยประมาณ 1,900,900 – 3,352,520 บาท

อันดับ 4 นักจิตวิทยา (Psychologist)

เป็นหลักสูตรที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำวิจัย เช่นเดียวกับการเรียนในสาขาวิทยาศาสตร์ หลักสูตรจิตวิทยาในระดับปริญญาตรีจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่การจะประกอบอาชีพเป็นนักจิตบำบัด จำเป็นต้องมีความรู้ในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกด้วย ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นที่ต้องการด้วยเช่นเดียวกัน หากมองในแง่ของค่าตอบแทนแล้วถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว หากดูจากเงินเดือนเริ่มต้น $67,000 ต่อปี

อันดับ 5 ผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์ (Public Relations Specialist)

การประชาสัมพันธ์ เป็นส่วนประกอบทางด้านการตลาดที่สำคัญ นอกเหนือจากการโฆษณา เน้นเรื่องการติดต่อสร้างการประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีขององค์กร โดยการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลความรู้และความคิดเห็น เป็นการจูงใจให้บุคคลมาทำการสนับสนุนองค์กรนั่นเอง เช่น การติดต่อประสานงานกับนักข่าว เพื่อโปรโมทองค์กรหรือบริษัท ส่งเสริมภาพลักษณ์ของลูกค้า โดยมีเงินเดือนเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ $40,000 – $73,000 ต่อปีกันเลยทีเดียว

อันดับ 6 ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Specialists)

งานด้านการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ หรือที่เรามักจะเรียกกันติดปากว่า “HR” ผู้ที่ทำงานในตำแหน่งนี้จะต้องเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี อัธยาศัยดี เพราะจะต้องทำงานร่วมกับบุคคลอื่นอยู่เป็นประจำ เพราะจะต้องเป็นผู้ที่ทำหน้าที่คัดสรรบุคคลที่มีความสามารถให้เข้ามาทำงานร่วมกันภายในองค์กรนั่นเอง
เงินเดือนเฉลี่ยต่อปี : $42,000 – $72,000 คิดเป็นเงินไทยโดยประมาณ 1,379,080 – 2,488,470 บาท

อันดับ 7 นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer)

ในปัจจุบันงานด้านกราฟฟิกมีความสำคัญมาก ต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์และผลิตสื่อด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิตยสาร วารสาร หนังสือ โฆษณา ภาพยนตร์ โทรทัศน์ หรือแผ่นพับใบปลิวต่างๆ ด้วยก็ตาม จึงทำให้นักศึกษาที่เรียนจบทางด้านศิลปะและการออกแบบ มีความต้องการมากในต่างประเทศ ซึ่งนักออกแบบกราฟฟิกที่ดีนั้นต้องมีการผสมผสานระหว่างศิลปะและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ หาไอเดียใหม่ๆ เพื่อมาใช้ในงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งงานโฆษณา ออกแบบผลิตภัณฑ์ แอนิเมชัน เกมดิจิตอล รวมไปถึงนักออกแบบเว็บไซต์ ก็มีความต้องการสูงในตลาดออนไลน์

อันดับ 8 นักเขียน (Writer)

นักเขียน เป็นอาชีพในสาขานิเทศศาสตร์และสื่อสารมวลชน หรือเรียกว่าคณะวารสารศาสตร์ ในบางมหาวิทยาลัย ที่ใช้ทั้งทักษะของภาษาและการเขียน มีความเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน สำหรับวารสาร แมกกาซีน หนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ และงานเขียนออนไลน์ ถือเป็นสายอาชีพที่ผสมผสานทักษะและวิชาความรู้ด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน นักเขียนบางคนทำงานเป็นผู้สื่อข่าว ที่สามารถสัมภาษณ์และรายงานข่าวตามข้อเท็จจริงภายหลังจากกระบวนการวิเคราะห์ออกมาแล้วได้ด้วยตัวเอง หรือนักเขียนสื่อโฆษณา ตามเว็บไซต์และช่องทางสื่ออื่นๆ ซึ่งนักเขียนสื่อการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงมากในต่างประเทศ เงินเดือนเฉลี่ยสูงถึง $57,000 – $65,000 ต่อปี


อันดับ 9 นักสังคมสงเคราะห์ (Social Worker)

อาชีพนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และต้องการที่จะพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น คอยให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาให้กับบุคคลต่างๆ สำหรับประเทศไทย มีเพียง 2 สถาบันการศึกษาเท่านั้น ที่เปิดสอนหลักสูตรสังคมสงเคราะห์ ได้แก่ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ คณะสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งในประเทศไทยถือว่าเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ เพราะมีอัตราเงินเดือนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับอัตราค่าเฉลี่ยเงินเดือนในต่างประเทศที่สูงถึง $37,000 – $56,000 ต่อปี

อันดับ 10 ครู (Teacher)

การศึกษาในวิชาศิลปะ, ภาษา, วิทยาศาตร์ และสังคมศาสตร์ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการประกอบอาชีพครู ซึ่งสายวิชาเหล่านี้จะรวมอยู่ในคณะศิลปศาสตร์และคณะศึกษาศาสตร์ ที่สามารถแยกเอกไปเป็นสาขาวิชาต่างๆ ได้ เช่น ในการเรียนคณะศิลปศาสตร์ในต่างประเทศ จะมีการฝึกอบรมเพื่อสามารถเรียนจบออกมาเป็นคุณครูได้ แต่ต้องผ่านการทดสอบเสียก่อน เช่นเดียวกับประเทศไทย คือต้องทำการทดสอบให้ใบประกอบวิชาชีพครูมาได้ก่อน ถึงจะสามารถไปประกอบอาชีพครูได้ โดยรายได้ของครูในต่างประเทศมีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ $47,000-$52,000 เริ่มต้นตั้งแต่ระดับปริญญาตรี และจะมีอัตราเงินเดือนเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น ในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก

9 วิธีการออมเงินง่ายๆ สำหรับคนเก็บเงินไม่เก่ง

 9 วิธีการออมเงินง่ายๆ สำหรับคนเก็บเงินไม่เก่ง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 9 วิธีการออมเงินง่ายๆ สำหรับคนเก็บเงินไม่เก่ง


1เก็บก่อนใช้                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                   
วิธีนี้ เป็นวิธีการเริ่มต้นง่ายๆ ของคนอยากมีเงินออมค่ะ ใครๆ ก็ทำได้ เห็นผลง่าย แต่ต้องบังคับตัวเองไม่ให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้นะคะ 
วิธีการ: เมื่อเงินเดือนออก แบ่ง 10% ของเงินเดือนเพื่อเป็นเงินออมทันที และเงินก้อนนี้เพื่อการออมอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ห้ามเอาออกมาใช้เด็ดขาด
ส่วนที่เหลือ ก็แบ่งเป็นส่วนๆ เพื่อจ่ายหนี้ จ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนต่างๆ และใช้จ่ายประจำวัน วิธีการออมเงินแบบนี้เป็นวิธีที่จะสามารถช่วยเราสร้างวินัยในการออมเงินได้ค่ะ
2พกเงินน้อยลง
หากเราเป็นอีกคนที่ใช้เงินเก่ง เก็บเงินไม่เก่ง มีเท่าไหร่ใช้ได้หมดเท่านั้น แปลว่าเราเป็นคนพกเงินเยอะ ก็ใช้เยอะ แล้วถ้าพกเงินน้อยล่ะ?
วิธีการ: พกเงินติดตัวจำนวนน้อยกว่าที่เคย อาจจะใช้ระบบการคำนวณค่าใช้จ่ายรายวัน ว่าเราใช้เงินต่อสัปดาห์เท่าไหร่ แล้วพกพอดีเท่านั้น และคอยเตือนตัวเองว่านี่คือเงินที่เราต้องใช้ทั้งสัปดาห์นะ ไม่ใช่ใช้หมดใน 1 วัน แล้วถอนเงินเป็นรายสัปดาห์แทนที่จะถอนเมื่อเงินหมด ก็จะสามารถช่วยคุณออมเงินได้เช่นกันค่ะ
3งดใช้บัตรเครดิต
จำกัดการใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระค่าใช้จ่ายประจำเดือนเท่านั้น แทนที่จะใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าค่ะ
วิธีการ: ใช้บัตรเครดิตเพื่อการชำระค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ผ่อนสินเชื่อ หรือหากต้องซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ราคาแพง เช่นต้องซื้อตู้เย็นใหม่ เครื่องซักผ้า ฯลฯ ถึงใช้บัตรเครดิต
ไม่ใช้บัตรเครดิตในการช็อปปิ้งสินค้าฟุ่มเฟือย หรือสินค้าจุกจิกค่ะ เพราะแบบนั้นจะทำให้เราเผลอใช้บัตรเครดิตบ่อยมาก ทำให้มียอดจุกจิกเต็มไปหมด แต่ยอดจุกจิกเนี่ยล่ะค่ะ รวมๆ กันแล้วมันกลับเยอะ เผลอๆ จะจ่ายไม่ไหวเอา ก็จ่ายได้แค่ขั้นต่ำ ทำให้เราต้องเสียดอกเบี้ยตามมา ใช้แต่พอดีนะคะ จะได้มีเงินออมกันค่ะ
4เก็บแบงค์ 50 บาท
เป็นวิธีออมเงินที่ง่ายอีกอย่างที่เราสามารถทำได้วันนี้เลยนะคะ เก็บแต่แบงก์ 50 บาทค่ะ
วิธีการ: ได้แบงก์ 50 บาทมาเมื่อไหร่ เก็บเมื่อนั้น ซุกไว้ในมุมมืดของกระเป๋าตังค์ กลับบ้านก็เอาไปหยอดใส่กระปุก หรือกระป๋องที่เราเตรียมไว้ พอกระปุกเต็ม หรืออาจจะครบระยะเวลาที่เรากำหนด ก็นำเงินส่วนนี้ไปฝากธนาคาร ง่ายม้๊ยคะ
สมัยนี้แบงก์ 50 บาทก็เรียกได้ว่ายังเป็นแบงก์ที่ได้ไม่บ่อย คนใช้ไม่เยอะ คิดซะว่าเป็นของหายาก ต้องเก็บรักษา ถึงเดือน หรือทุก 2-3 เดือนก็เอาไปฝากธนาคาร บางคนใช้วิธีนี้เก็บเงินได้เป็นหมี่นๆ นำเงินเก็บไปเที่ยวต่างประเทศได้เลยก็มีค่ะ
5เปิดบัญชีฝากประจำระยะยาว
หากเราเป็นคนที่ใจอ่อนกับตัวเอง วิธีการบังคับตัวเองให้ออมเงินอีกอย่าง คือการเปิดบัญชีเงินฝากประจำระยะยาว อาจจะเริ่มที่ 5 ปีก่อน แล้วค่อยขยับขยายก็ได้ค่ะ
วิธีการ: เปิดบัญชีเงินฝากประจำ เริ่มต้นที่ฝากประจำเป็นเวลา 5 ปี แล้วฝากเงินจำนวนเท่าๆ กันในบัญชีนั้น ทุกๆ เดือน โดยใช้ระบบการตัดยอดเงินอัตโนมัติตามจำนวน และระยะเวลาที่เราต้องการ แล้วนำฝากเข้าบัญชีฝากประจำทุกเดือน
เพราะว่าบัญชีเงินฝากประจำเราจะไม่สามารถนำเงินออกมาได้จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา การตั้งให้มีการตัดเงิน โอนเงินอัตโนมัติจะทำให้เราไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องไปโอนเงิน หรือฝากเงินด้วยตัวเอง ไม่ต้องทำบัตร ATM ด้วยค่ะ แค่นี้เราก็มีเงินเก็บทุกๆ เดือนแน่นอนแล้วค่ะ
6หยอดกระปุกออมสิน
หยอดกระปุก เรื่องเด็กๆ แต่บางคนหยอดกระปุกก็จริงแต่ก็แคะกระปุกมาใช้ตลอด แบบนี้ก็เก็บเงินไม่อยู่เหมือนกันนะคะ จริงๆ แล้วการหยอดกระปุก จะให้ดี เราควรทำการแบ่งกระปุกออกเป็นหลายๆ จุดประสงค์ แต่ละกระปุกก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกัวิธีการ: หากระปุกออมสินมาหลายๆ ใบ นำกระดาษเขียนจุดประสงค์การเก็บเงินของแต่ละกระปุกมาแปะไว้ที่กระปุก เช่น สำหรับเที่ยวสงกรานต์ปี 59 ซื้อนาฬิกาใหม่ ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ซื้อแล็บท็อปใหม่ เป็นต้น อย่าลืมแบ่ง 1 กระปุกไว้สำหรับการออมเงินด้วยนะคะ
คุณอาจจะแบ่งหยอดกระปุก วันละ 10-20 บาทต่อกระปุก หยอดโดยแบ่งจากจำนวนเงินที่เหลือใช้รายวัน รายสัปดาห์ก็ได้ค่ะ ทีนี้ก็มีเงินสะสมเพื่อใช้ซื้อโน่นนี่แล้วยังมีแล้วแบ่งเงินหยอดกระปุกสำหรับการออมเงินอีกด้วยค่ะ ได้ประโยชน์รอบตัวเลย
7เอาชนะใจตัวเอง
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการออมเงิน คิดว่าคงเป็นการเอาชนะใจตัวเอง ไม่ซื้อ ไม่ใช้ ไม่เอาเงินในกระปุกออกมาใช้จ่าย แต่จะทำยังไงล่ะถึงจะบังคับตัวเอง สร้างวินัยในการออมเงินใหม่ได้?
วิธีการ: สร้างเป้าหมายระยะยาวสำหรับการออมเงินให้ตัวเอง ว่าเราต้องการออมเงินเพื่ออะไร ซื้อบ้าน ซื้อรถ ดูแลครอบครัว ซื้อคอนโด ฯลฯ มีเป้าหมายชัดเจนในการออมเงิน แล้วใช้เป้าหมายนี้เตือนตัวเองว่าเราต้องออมเงินไปเพื่ออะไร
หากเรามีเป้าหมายชัดเจนสำหรับการออมเงิน ว่าเราต้องการออมเงินไปเพื่ออะไร แม้ว่าจะเป็นการออมเงินเพื่อการมีเงินสะสม เพื่ออนาคตที่สุขสบาย ก็ยังเป็นเป้าหมายที่ดีค่ะ แล้วเราก็ใช้เป้าหมายเหล่านี้แหละค่ะมาเตือนตัวเองเวลาเราคิดจะแคะกระปุกเอาเงินไปใช้ ว่าเราอุตส่าห์อดทนออมเงินเพื่ออะไรกันแน่ พอเรานึกถึงเป้าหมายแล้ว รับรองว่าสามารถเอาชนะใจตัวเองได้แน่นอนค่ะ
8ไม่ยึดติดแบรนด์เนม
พวกเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ของแบรนด์เนมก็ได้นะคะ เลือกยี่ห้อที่ราคาดี คุณภาพดี คุ้มค่ากับราคา ใช้งานได้นานๆ จะดีกว่าเลือกของแพงๆ เพราะจะได้ใช้แล้วดูดีค่ะ
วิธีการ: เลือกสินค้า ของใช้ที่คุณภาพ และความเหมาะสมของคุณภาพและราคา โดยใช้จุดประสงค์ที่เราต้องการซื้อเป็นหลัก
หากเราเป็นนักธุรกิจ อาจจะลงทุนเพื่อสั่งตัดชุดทำงานชุดเก่งสัก 2 ชุดที่ดูดี เวลาเราต้องออกไปพบลูกค้า หรือหุ้นส่วน หรือเข้าประชุม ส่วนนอกจากนั้น อาจจะซื้อเสื้อโปโล หรือเสื้อเชิ้ตที่ดูดี ไม่ได้ต้องแพงใส่วันทำงานธรรมดาแทนก็ได้ค่ะ ของแบบนี้มิกซ์แอนด์แมทช์ได้อยู่แล้ว ทีนี้ก็มีเงินเก็บได้อีกเพียบเลยค่ะ
9 ลดค่าใช้จ่าย
วันๆ หนึ่ง คนทำงานต้องกินต้องใช้ กาแฟ ชา ขนม นม เนย ของขบเคี้ยวแก้ง่วง ถ้าซื้อบ่อย ซื้อประจำ ก็เปลืองเงิน อะไรลดได้ก็ลดดีกว่าค่ะ ถือซะว่าเป็นการลดน้ำหนักไปในตัวด้วยเลย
วิธีการ: ลดการซื้อชา กาแฟ เปลี่ยนมาซื้อชาเป็นกล่อง กาแฟผงชงเอง ลดปริมาณขนมขบเคี้ยวที่รับประทานประจำวัน วางแผนอาหารการกินของตัวเอง
จริงๆ แล้วหากเราทำกับข้าวเองอยู่แล้ว เราก็สามารถทำกับข้าวเพิ่มตอนกลางคืน แล้วนำที่เหลือใส่กล่องมารับประทานที่ออฟฟิศแทนก็ได้นะคะ เป็นการลดค่าใช้จ่าย แถมได้กินคลีน กินอาหารดีๆ อีกด้วยค่ะ แล้วก็ไม่ได้เป็นการเพิ่มสิ่งที่เราทำประจำวันแต่อย่างใดเลยด้วยค่ะนไปค่ะ






วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

สถานที่น่าเที่ยวในประเทศฝรั่งเศส

สถานที่น่าเที่ยวในประเทศฝรั่งเศ

หอไอเฟล (ฝรั่งเศสTour Eiffelตูร์แอแฟล) เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประตูชัยฝรั่งเศส

อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล (ฝรั่งเศสArc de triomphe de l'Étoile) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ประตูชัยฝรั่งเศส เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม "จัตุรัสแห่งดวงดาว" (Place de l'Étoile) อยู่ทางทิศตะวันตกของช็องเซลีเซ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนา



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โกตดาซูร์


โกตดาซูร์ (ฝรั่งเศสCôte d'Azur) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่า เฟรนช์ริวีเอรา (อังกฤษFrench Riviera) เป็นชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึงโมนาโก ไม่มีขอบเขตแน่ชัดแต่มักจะกล่าวถึงว่า มีขอบเขตตั้งแต่ม็องตงไปจนถึงชายแดนอิตาลี ทางตะวันออกของแซ็ง-ทรอเปอีแยร์ หรือกาซี ทางตะวันต




ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สวนตุยเลอรี


สวนตุยเลอรีมีอาณาบริเวณกว้าง 175 ไร่ เป็นสถานที่สุขสงบสำหรับเข้ามาผ่อนคลายท่ามกลางกลิ่นหอมหวานของไม้ดอกนานาพันธุ์ สวนถูกวาดผังในปี 1664 โดย André Le Nôtre และนับแต่นั้นมาก็กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวปารีส


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มง-แซ็ง-มีแชล



มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศสLe Mont-Saint-Michel) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว[1]




พระราชวังแวร์ซาย (ฝรั่งเศสChâteau de Versailles) เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่แวร์ซาย ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มหาวิหารซาเคร-เกอร์



มหาวิหารพระหฤทัยแห่งมงมาทร์ (ฝรั่งเศส: Basilique du Sacré-Cœur de Montmartre) เป็นโบสถ์และมหาวิหารรองในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของกรุงปารีส หรือที่เรียกกันว่า "มงมาทร์" สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่พระหฤทัยของพระเยซู ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของกรุงปารีส โดยถือเป็นอนุสาวรีย์ของทั้งสองด้าน คือการเมือง และวัฒนธรรม





พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (ฝรั่งเศสMusée du Louvre) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส

อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (ฝรั่งเศสCathédrale Notre-Dame de Paris กาเตดราลน็อทร์-ดามเดอปารี[1]) หรือ มหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame แปลว่า พระแม่เจ้า (Our Lady) ซึ่งเป็นคำที่ชาวคาทอลิกใช้เรียกพระนางมารีย์พรหมจารี ปัจจุบันอาสนวิหารก็ยังใช้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกและเป็นที่ตั้งคาเทดราของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส มหาวิหารน็อทร์-ดามถือกันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส โบสถ์นี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พิพิธภัณฑ์ออร์แซ


พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (ฝรั่งเศสMusée d'Orsay) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์การออกแบบ/สิ่งทอ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์[2] ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ออร์แซก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1986 บนฝั่งซ้ายแม่น้ำเซนในสถานที่ที่เดิม เคยเป็นสถานีรถไฟออร์แซ ที่สร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบโบซาร์โดยสถานีรถไฟแห่งนี้ถูกสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1898 ถึง ค.ศ. 1900 เพื่อให้เสร็จทันงาน Exposition Universelle เพื่อใช้เป็นชุมทางรถไฟสายตะวันตกเฉียงใต้ จนถึงปีค.ศ. 1939 ได้เลิกกิจการเนื่องจากขนาดของชานชลาไม่กว้างพอสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจำนวนมาก สถานีรถไฟออร์แซ จึงลดความสำคัญลงเป็นสถานีรถไฟสำหรับเดินทางในระยะใกล้ ในปัจจุบันใต้ดินส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ยังคงใช้เป็นสถานีรถไฟชานเมืองด่วนพิเศษ หรือ RER โดยใช้ชื่อสถานีเดียวกัน