Portfolio
การทำ Portfolio ไม่ใช่ว่ามีอะไรเราก็จับยัด ๆ ใส่ไปนะคะ หนาแต่ไม่มีคุณภาพก็สู้แบบบาง ๆ แต่ข้างในเจ๋งไม่ได้ค่ะ การ Portfolio ก็จะมีส่วนประกอบอยู่ 4 ส่วน คือ ส่วนของประวัติส่วนตัว, ส่วนของผลงานที่ผ่านมา, ส่วนของกิจกรรมที่ทำ และ ภาคผนวก ค่ะ แต่ละส่วนจะต้องเขียนอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ส่วนที่ 1 ประวัติส่วนตัว
ถ้าเทียบแล้วพี่แป้งคิดว่าส่วนแรกเป็นส่วนเรียกน้ำย่อย แต่ไม่ใช่น้ำย่อยธรรมดานะคะ เป็นน้ำย่อยที่มีปริมาณมากพอที่จะย่อยอาหารจากหลักเราได้อย่างสวยงามเลยล่ะค่ะ ส่วนของประวัติส่วนตัวนั้นเป็นส่วนที่อาจารย์สอบสัมภาษณ์จะได้ทราบข้อมูลของเราแบบคร่าว ๆ ก่อนที่จะไปถึงผลการเรียนหรือกิจกรรมที่ทำ เหมือนเป็นการแนะนำตัวเองอีกทางนึงค่ะ โดยส่วนแรกของ Portfolio จะมีส่วนประกอบดังนี้คือ
--> หน้าปก : การออกแบบหน้าปกมีโจทย์ง่าย ๆ สั้น ๆ นิดเดียวเลยคือ "ทำยังไงก็ได้ให้อาจารย์สอบสัมภาษณ์อยากหยิบขึ้นมาอ่าน" .... ไม่ง่ายเลยสินะ T_T เอาาแบบสะดุดตาเลยค่ะ แต่ไม่เอาแบบเอารูปตัวเองใส่ชุดนอน เปิดอก หรือ ใส่กางเกงขาดขึ้นปกนะคะ อันนั้นดึงดูดในทางที่ไม่ดีเลย ฮ่า ๆ หน้าปกที่ดีควรที่จะมีรูปของเรา ชื่อ นามสกุล โรงเรียน สายการเรียน ประกาศตัวเองให้ชัดเจนไปเลยค่ะ นอกจากอาจารย์จะเห็นภาพแล้วจะได้เห็นข้อมูลพื้นฐานเราด้วย
--> ปกใน : ปกในก็คือหน้าปกแผ่นแรกนั่นแหละค่ะ แต่เป็นเวอร์ชั่น Copy แผ่นแรกอาจจะเป็นกระดาษแข็งหรือกระดาษหอมนิด ๆ แต่ปกในเป็นแค่กระดาษ A4 ธรรมดาก็พอค่ะ
--> ประวัติส่วนตัว : เป็นส่วนที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเราค่ะ ในส่วนนี้เป็นส่วนเนื้อหา เราสามารถทำเป็นแบบ 2 ภาษาได้ค่ะ คือ แบบภาษาไทย และ แบบภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะแสดงให้อาจารย์ท่านเห็นว่าเรามีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษกับ Portfolio ได้ค่ะ อันนี้ไม่ได้บังคับนะคะ แล้วแต่ว่าจะทำหรือเปล่า แต่น้อง ๆ ที่เข้าในคณะ/สาขา/สถาบันที่เน้นภาษาอังกฤษส่วนนี้จะช่วยโกยคะแนนมากมายเลยค่ะ ทั้งคะแนนความประทับใจจากอาจารย์และคะแนนทักษาะการใช้ภาษา ในส่วนของประวัติส่วนตัวต้องประกอบไปด้วย
* ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา จำนวนพี่น้อง
* จบ/กำลังศึกษาอยู่ที่... ระดับชั้น... สายการเรียน...
* ที่อยู่ทั้งที่อยู่ปัจจุบัน(ที่ติดต่อสะดวก) และ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ถ้าที่เดียวกัน
ก็เขียนครั้งเดียวพอค่ะ
* ชื่อบิดา-มารดา อายุ สถานที่ทำงาน และเบอร์ที่สามารถติดต่อได้ และ ชื่อพี่น้อง(ถ้ามี)
* ประวัติการศึกษา ตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยม แต่ละช่วงชั้นเรียนที่ไหน ได้เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่
แบ่งเป็นช่วง อ.1-3, ป.1-3, ป.4-6, ม.1-3 และ ม.4-6 ค่ะ (ทำเป็นตารางจะเห็นชัดเจน
กว่านะคะ) มีหลักฐานอ้างอิงคือในแสดงผลการเรียนหรือทรานสคริป ให้ใส่ในส่วนของ
ภาคผนวกค่ะ
* ประวัติการศึกษาดูงาน / เข้าค่าย ถ้ามีการเข้าค่ายหรือได้ไปทัศนศึกษาที่ไหน
ช่วงไหนบ้าง ก็สามารถใส่ลงไปได้ค่ะ ที่สำคัญถ้าใส่สิ่งที่ได้จากกิจกรรมนั้น ๆ ด้วย
จะเป็นอะไรที่เพอร์เฟคมากเลยค่ะ
* เกียรติประวัติทางด้านการศึกษา / ด้านพฤติกรรม เช่น การประกวดเรียงความ
ภาษาไทย เกียรติบัตรรางวัลต่าง ๆ เกี่ยวกับวิชาการ ทำเป็นตารางและแนบเอกสาร
ไปในภาคผนวกค่ะ แยกออกเป็นด้านต่าง ๆ นะคะ(1 ตารางต่อ 1 ด้าน)
อาจารย์สอบสัมภาษณ์จะได้ไม่สับสน (***เราจะกล่าวด้านหลังว่า อ้างอิงภาคผนวก
เอกสารหน้าที่ ....)
* กิจกรรมภายในโรงเรียน/ภายนอกโรงเรียน/กิจกรรมเพื่อส่วนรวม ทำเป็นตารางหรือ
ทำเป็นลิสต์แต่ละข้อก็ได้ค่ะ จะไม่มีก็ได้ค่ะ
* จบ/กำลังศึกษาอยู่ที่... ระดับชั้น... สายการเรียน...
* ที่อยู่ทั้งที่อยู่ปัจจุบัน(ที่ติดต่อสะดวก) และ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ถ้าที่เดียวกัน
ก็เขียนครั้งเดียวพอค่ะ
* ชื่อบิดา-มารดา อายุ สถานที่ทำงาน และเบอร์ที่สามารถติดต่อได้ และ ชื่อพี่น้อง(ถ้ามี)
* ประวัติการศึกษา ตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยม แต่ละช่วงชั้นเรียนที่ไหน ได้เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่
แบ่งเป็นช่วง อ.1-3, ป.1-3, ป.4-6, ม.1-3 และ ม.4-6 ค่ะ (ทำเป็นตารางจะเห็นชัดเจน
กว่านะคะ) มีหลักฐานอ้างอิงคือในแสดงผลการเรียนหรือทรานสคริป ให้ใส่ในส่วนของ
ภาคผนวกค่ะ
* ประวัติการศึกษาดูงาน / เข้าค่าย ถ้ามีการเข้าค่ายหรือได้ไปทัศนศึกษาที่ไหน
ช่วงไหนบ้าง ก็สามารถใส่ลงไปได้ค่ะ ที่สำคัญถ้าใส่สิ่งที่ได้จากกิจกรรมนั้น ๆ ด้วย
จะเป็นอะไรที่เพอร์เฟคมากเลยค่ะ
* เกียรติประวัติทางด้านการศึกษา / ด้านพฤติกรรม เช่น การประกวดเรียงความ
ภาษาไทย เกียรติบัตรรางวัลต่าง ๆ เกี่ยวกับวิชาการ ทำเป็นตารางและแนบเอกสาร
ไปในภาคผนวกค่ะ แยกออกเป็นด้านต่าง ๆ นะคะ(1 ตารางต่อ 1 ด้าน)
อาจารย์สอบสัมภาษณ์จะได้ไม่สับสน (***เราจะกล่าวด้านหลังว่า อ้างอิงภาคผนวก
เอกสารหน้าที่ ....)
* กิจกรรมภายในโรงเรียน/ภายนอกโรงเรียน/กิจกรรมเพื่อส่วนรวม ทำเป็นตารางหรือ
ทำเป็นลิสต์แต่ละข้อก็ได้ค่ะ จะไม่มีก็ได้ค่ะ
แยกออกเป็นส่วน ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าเดียว อาจจะส่วนละ 1 หน้ากระดาษก็ได้
แล้วแต่การจัดเรียงแล้วความสวยงามของ Portfolio แต่ละเล่ม
เป็นข้อมูลพื้นฐาน ไม่ต้องกล่าวถึงรายละเอียดกิจกรรม
ส่วนที่ 2 ผลงาน + คำนิยม
ส่วนที่ 2 นี้เป็นการดึงเอาผลงานเด่น ๆ ของเรามาใส่ค่ะ ส่วนนี้ถือว่าเป็นส่วนหัวใจของการทำ Portfolio เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเป็นส่วนที่เราจะเสนอว่าเรามีความสามารถมากเพียงไหน อาจารย์สอบสัมภาษณ์บางท่านอาจจะเปิดผ่านในส่วนของประวัติส่วนตัวเราไปเลยก็ได้ค่ะ อย่าน้อยใจไปนะคะ แต่พี่แป้งรับรองเลยว่าไม่มีอาจารย์ท่านไหนที่มองข้ามในส่วนของผลงานนี้ไปแน่ ๆ ค่ะ
ส่วนผลงานนี้ต่างจากส่วนที่ 1 นะคะ ในส่วนที่ 1 เราจะบอกว่าเราทำกิจกรรมอะไรบ้าง มีผลงาน เกียรติบัตรอะไรบ้าง แต่ในส่วนที่ 2 ส่วนผลงานนี้จะดึงเอาแต่ผลงานที่เด่น ๆ ไม่ใช่ทั้งหมด เอาที่เด่นและคิดว่าเกี่ยวข้องกับ คณะ/สาขา ที่เราเข้ามากที่สุด ถ้าคิดว่าไม่เกี่ยวข้องก็เอาที่โดดเด่นมากที่สุด ถ้ามีเยอะก็เอามาแค่ 2-3 ผลงานก็พอค่ะ แต่ต้องเด่นและเจ๋งจริงนะคะ และเกียรติบัตรที่รับรองเราก็สามารถอ้างอิงได้จากภาคผนวกค่ะ
ในส่วนผลงานนี้ควรมีทั้งคำบรรยายและภาพประกอบค่ะ ถ้าจะให้ดีควรเป็นภาพที่ปริ้นออกมาเลยค่ะ ไม่ควรใช้เป็นรูปแปะลงกระดาษ เพราะว่าจะทำให้ Portfolio ของเราหนาแลดูไม่สวยงามค่ะ แล้วถ้าเป็นไปได้ควรเป็นภาพสีเพื่อความสวยงาม แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะคะ คือถ้าทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ อาจารย์ท่านดูความตั้งใจของเราก่อนดูที่ผลงานนะคะ ในส่วนของคำบรรยายเราควรบรรยายว่าผลงานนั้น ๆ เราทำที่ไหน เมื่อไหร่ ทำหน้าที่อะไร และได้อะไรจากการทำผลงานนั้น ๆ ด้วยค่ะ รูปถาพไม่จำเป็นต้องเป็นภาพเดียวนะคะ หลาย ๆ ภาพประกอบได้ แต่ใน 1 ผลงาน ไม่ควรที่จะเกิน 5 รูปค่ะ เพราะมันจะเยอะและรกเกินไป เลือกภาพที่เด็ด ๆ นะคะ
ในส่วนของคำนิยม น้อง ๆ อาจจะ งง ว่า คำนิยม คืออะไร?? คำนิยมก็คือคำที่อาจารย์ได้เขียนถึงเราในเรื่องของนิสัย ความประพฤติ กิจกรรม ผลงาน ในส่วนนี้ไม่ได้บังคับนะคะ แต่ถ้ามีจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ค่ะ คำนิยมจะเป็นแบบพิมพ์หรือเขียนก็ได้ค่ะ สำคัญตรงที่ต้องมีลายเซ็นต์รับรองจากอาจารย์ผู้เขียนเท่านั้นเอง จะมีอาจารย์ที่เขียนคำนิยมมากว่า 1 ท่านก็ได้ค่ะ อาจจะเป็นอาจารย์ประจำชั้น อาจารย์ประจำวิชา ครูใหญ่ ผอ. ได้หมดเลยค่ะ ในส่วนนี้ต้องทำเรื่องขอกันสักหน่อยนะคะ ถ้าใครที่ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ ข้ามไปทำในส่วนที่ 3 ได้เลย
ส่วนที่ 3 กิจกรรม
ส่วนกิจกรรมก็คล้าย ๆ กับผลงานเลยค่ะ แต่จะเป็นกิจกรรมแทน ในส่วนผลงานอาจจะเป็นการประกวด ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน การเล่นกีฬา หรือเกียรติบัตรจากการทำความดี เป็นต้น แต่กิจกรรมจะเน้นไปที่อย่างอื่นที่ไม่ใช่ด้านวิชาการค่ะ เช่น ความสามารถพิเศษต่าง ๆ กิจกรรมกีฬาสี การเป็นประธานรุ่น เป็นประธานเชียร์ งานแสดงตามวันสำคัญต่าง ๆ การเป็นตัวแทนโรงเรียนถือป้ายโรงเรียน เป็นต้นค่ะ ลักษณะการทำก็คล้าย ๆ กับส่วนผลงาน คือมีการบรรยายว่ากิจกรรมนั้นทำที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ เรามีส่วนร่วมอะไร และเราได้อะไรจากการทำกิจกรรมนั้น ๆ ค่ะ
ส่วนที่ 4 ภาคผนวก
ส่วนนี้เป็นส่วนที่รวมเอกสารทั้งหมดค่ะ เอกสารหลักฐานนั้นเราจะไม่เอาไปใส่ในตัวของเนื้อหนานะคะ เราจะเก็บไว้ในส่วนนี้และใช้วิธีการอ้างอิงค่ะ เอกสารที่อยู่ในส่วนนี้ก็เช่น
* สำเนาใบแสดงผลการเรียน(ทรานสคริป ปพ.1)
* สำเนาเกียรติบัตรต่าง ๆ (เรียงตาม พ.ศ.)
* ภาพถ่ายอื่น ๆ มากกว่าที่ใส่ในส่วนของผลงานและกิจกรรม(ประมวลภาพ ใส่ได้เต็มที่)
ที่สำคัญของส่วนนี้คือต้องเรียงเลขหน้าด้วย เวลาที่เราไปใช้อ้างอิงจะได้เรียกใช้ได้อย่างถูกต้อง ... ก็ครบแล้วสำหรับการทำ Portfolio ทั้ง 4 ส่วนนะคะ รีบทำวันนี้จะได้มีเวลาแก้เผื่อผิดพลาดนะคะ
ช่วงนี้ขออิงกระแสหน่อย ผลสอบ มศว ก็ประกาศแล้ว เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า คณะไหน สาขาไหนของสอบตรง มศว ที่ต้องใช้ Portfolio ในวันสอบสัมภาษณ์กันบ้าง
* คณะพลศึกษา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกกำลังกาย
(หลักฐานแสดงความสามารถทางกีฬา (ถ้ามี))
* คณะพลศึกษา สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ (หลักฐานแสดงความสามารถหรือ
ผลงานกิจกรรมด้านสุขภาพ)
* คณะพลศึกษา สาขาวิชาผู้นำนันทนาการ (หลักฐานแสดงความสามารถหรือ
ผลงานด้านต่างๆ)
* คณะพลศึกษา หลักสูตรการศึกษาศาสตรบัณฑิต (หลักฐานแสดงความสามารถ
ทางกีฬา หรือ ผลงานกิจกรรมทางสุขภาพ)
* คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาจิตวิทยา (ประวัติและผลงานของผู้สมัคร (ถ้ามี))
* คณะมนุษยศาสตร์ (ประวัติและผลงานที่เกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชา
ที่สมัคร / เอกสารรับรองความสามารถ (ถ้ามี))
- สาขาวิชาปรัชญาและศาสนา
- สาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก
- สาขาวิชาสารสนเทศศึกษา
- สาขาวิชาภาษาเพื่ออาชีพ
- สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส
- สาขาวิชาภาษาตะวันออก
- สาขาวิชาภาษาไทย
* คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (แฟ้มประวัติและ
ผลงาน (Portfolio)) ** ไม่คืนแฟ้มสะสมผลงาน
- สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากร
- สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการการท่องเที่ยวและบูรณาการ
* คณะศิลปกรรมศาสตร์ (แฟ้มประวัติและผลงาน (Portfolio))
** ให้เขียนชื่อ นามสกุล โครงการ / หลักสูตร / สาขาวิชา / วิชาเอก ที่สมัครสอบ และ
เลขที่นั่งสอบ กำกับเอกสารและข้อมูลทุกรายการด้วย
- วิชาเอกศิลปะจินตทัศน์
- วิชาเอกเซรามิกส์
- วิชาเอกศิลปวัฒนธรรม
- วิชาเอกการออกแบบสื่อสาร
- วิชาเอกการออกแบบผลิตภัณฑ์
- วิชาเอกการออกแบบแฟชั่น
- วิชาเอกการออกแบบเครื่องประดับ
- วิชาเอกนาฏศิลป์ไทย
- วิชาเอกนาฏศิลป์สากล
- สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์สากล
* คณะศิลปกรรมศาสตร์ (แฟ้มประวัติและผลงาน (Portfolio))
**ให้เขียนชื่อ นามสกุล โครงการ / หลักสูตร / สาขาวิชา ที่สมัครสอบ และ เลขที่นั่งสอบ
กำกับเอกสารและข้อมูลทุกรายการด้วย
- สาขาวิชาดนตรีศึกษา
- สาขาวิชาศิลปศึกษา
- สาขาวิชานาฏศิลป์
* คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาการประถมศึกษา (ประวัติผลงานของผู้สมัคร (ถ้ามี))
* วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม แฟ้มประวัติและผลงาน (Portfolio)
** ไม่คืนแฟ้มสะสมผลงาน
** ให้เขียนชื่อ นามสกุล โครงการ / หลักสูตร / สาขาวิชา / วิชาเอก ที่สมัครสอบ และ
เลขที่นั่งสอบ กำกับเอกสารและข้อมูลทุกรายการด้วย
- สาขาวิชานวัตกรรมสื่อสารสังคม
- สาขาวิชานวัตกรรมการสื่อสาร
- สาขาวิชาภาพยนตร์และสื่อดิจิตอล
FAQ รวมคำถามสงสัยในการทำ Portfolio
Question : ต้องเป็นเอกสารตัวจริงในการทำ Portfolio เท่านั้นใช่ไหม?
Answer : ไม่จำเป็นเลยค่ะ จะเป็นสำเนาแบบ ขาว-ดำ หรือ แบบสี ก็ได้ ความสำคัญอยู่ตรงที่ต้องมีการเซ็นสำเนาถูกต้อง อาจจะไม่ต้องมีเส้นขีดคาดตรงกลางก็ได้ค่ะ แต่ต้องมีเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง และบอกด้วยว่าสำเนานี้ใช้เฉพาะอะไร เป้นมุมเล็ก ๆ ด้านล่างของกระดาษก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเอกสารอะไรที่สำคัญอย่างเช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ควรมีเส้นขีดคาดตรงกลางนะคะ เอกสารของเราจะได้ไม่ถูกนำไปใช้ต่อค่ะ
Question : สามารถโหลดรูปแบบหน้าปกที่มีตามอินเตอร์เน็ตมาใช้ได้หรือเปล่า?
Answer : สามารถทำได้ค่ะ แต่บอกเลยว่า "ไม่ควร" ค่ะ เพราะว่าการที่เราโหลดมาเป็นแบบที่คนอื่นสร้างขึ้น คนอื่นก็อาจจะโหลดมาเหมือนกัน แล้วก็เกิดเหตุกาณณ์ที่ว่า หน้าปกซ้ำ ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นสร้างขึ้นมาเองเลยดีกว่า ไม่เหมือนใครด้วย แล้วหน้าปกก็เป็นจุดแรกที่อาจารย์สอบสัมภาษณ์ท่านเห็น อาจจะสร้างความประทับใจแรกได้ค่ะ รูปแบบหน้าปกตามอินเตอร์เน็ต เราสามารถดูได้เพื่อมาดัดแปลงทำหน้าปกของเราค่ะ แต่ไม่ควรโหลดมาแล้วเปลี่ยนชื่อเลย อาจารย์ท่านจะมองเราว่าไม่มีความคิดสร้างสรรค์นะคะ (โดนกดคะแนนด้วย)
Question : ถ้าไม่มีผลงานโดดเด่นจะสามารถใส่อะไรลงไปได้บ้าง?
Answer : เริ่มแรกเลย พยายามหารูปกิจกรรมที่มีเราอยู่ในนั้น 1 - 2 รูปก็ยังดีค่ะ แล้วอธิบายว่ากิจกรรมนั้น ๆ ที่เราทำคืออะไร ไม่จำเป็นต้องเป็นในโรงเรียนนะคะ เป็นของนอกรั้วโรงเรียนก็ได้ เช่น มีรวมกลุ่มปั่นจักรยานทางไกล เล่นกีฬาต่าง ๆ หรือ เป็นอาสาสมัครดูแลเด็กวันเสาร์-อาทิตย์ อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็พยายามหาคำนิยมจากอาจารย์หลาย ๆ ท่านมาใส่ค่ะ คำกล่าวจากอาจารย์จะการันตีเราได้ส่วนนึงเลย กิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ใส่ได้นะคะ ไม่ต้องเป็นการประกวดใหญ่โตอะไรก็ได้ ^_^
Question : โครงการรับตรง 1 โครงการใช้ Portfolio 1 เล่มใช่หรือไม่? (ถ้าสมัคร 10 โครงการก็ต้องทำ 10 เล่มเลยหรอ?)
Answer : แล้วแต่ทางโครงการรับตรงนั้นกำหนดค่ะ บางสถาบันอย่างเช่น มศว จะระบุมาเลยว่าขอสงวนสิทธิ์ในการคืน Portfolio เพราะฉะนั้นก็ทำสำเนาอีกฉบับได้เลยค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วทางอาจารย์สอบสัมภาษณ์ท่านจะดูแล้วถาม ถามเสร็จก็คืนนะคะ เว้นแต่ว่าผลงานเราจะโดดเด่นจริง ๆ อาจารย์จะขอดึงใบประกาศแผ่นนั้นเอาไว้ค่ะ แต่ไม่ค่อยเก็บทั้งเล่มนะคะ ทางทีดีอย่านำเอกสารผลงานตัวจริงใส่ลงไปจะดีกว่าค่ะ ถ้าต้องการความสวยงามก็ถ่ายเอกสารเป็นแบบสี แล้วก็เซ็นต์สำเนาถูกต้องเล็ก ๆ ไว้ที่มุมกระดาษด้านล่าง จะได้ไม่ต้องบังเอกสารค่ะ
Question : ทำ Portfolio สามารถแต่งเรื่องราวของเราได้หรือเปล่า?
Answer : เราสามารถเพิ่มอรรถรสในการเขียนได้ค่ะ แต่ไม่ควรแต่งเกินความเป็นจริง อาทิเช่น บ้านเราฐานะปานกลาง แต่เรากลับเขียนว่าฐานะบ้านเรารวยมาก รวยเป็นสิบล้านยี่สิบล้าน อันนี้ก็เวอร์ไปค่ะ แต่เราสามารถเขียนให้ยาวขึ้นได้ เช่น ที่บ้านทำธุรกิจขายขนมปัง ถ้าใครเขียนเรียงความชีวิตตัวเองก็อาจจะใส่ไปได้ว่า "ทุก ๆ เช้าข้าพเจ้า/ดิฉัน/ผม ตื่นมาช่วยคุณพ่อคุณแม่นวดแป้งขนมปัง บางวันมีการไปโรงเรียนสายเพราะมัวแต่รับประทานขนมปังที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ กลิ่นหอมมาก พร้อมทั้งมีใส่อยู่ด้านในให้เลือกหลากหลาย...." แต่ถ้าไม่เขียนเรียงความก็ไม่ต้องนะคะ 555+
จัดเต็มกันไปสำหรับการทำแฟ้มสะสมผลงานหรือ Portfolio 1 เล่มนะคะ ตอนนี้ใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มทำยังไงก็รู้แล้วเนาะ เริ่มทำเลยดีกว่า ถ้าไม่รู้เริ่มตรงไหนก็เริ่มจากการหาผลงานของเราก่อนก็ได้ค่ะ เวลาเอามาเขียนทำเป็นเล่ม Portfolio เราจะได้รู้ว่าต้องเขียนอะไรไปต่อจากประวัติของเรา มีอีกเคล็ดลับจะบอกค่ะ การที่เราลอก Portfolio ของเพื่อนมา ถึงแม้ว่าอาจารย์ที่สอบสัมภาษณเราจะไม่รู้จักเรา หรือ เพื่อนเรา มาก่อนก็ตาม แต่บอกว่าเลยอาจารย์ท่านรู้นะคะว่าใครทำเองหรือใครลอกมา อาจารย์แต่ละท่านผ่าน Portfolio มาเยอะมาก เพราะฉะนั้นตั้งใจทำเองนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น